Return to site

ลูกากู : สมควรโดนด่าหรือเป็นแค่แพะรับบาป

broken image

"ผมไม่คิดว่าตนเองเป็นผู้เดียวที่เล่นได้ห่วยแตกในช่วงฤดูกาลนี้หรอก มีอีกตั้งผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยที่เล่นได้เฮงซวยจะตายไป พวกเขาก็แค่ต้องหาฆาตกรที่จะปัดความผิดให้ ถ้าเกิดพวกเขาจะโทษว่ามันเป็นเพราะเหตุว่าผมเนี่ย ผมก็ขอบอกเลยว่าน่าสังเวชสิ้นดี พวกเขาปรารถนาหาคนมาเป็นแพะรับบาป ซึ่งโดยมากมันก็จะมาลงที่ (ปอล ป็อกบา),ผม หรือไม่ก็ อเล็กซิส (ซานเชซ) มีเพียงแค่พวกเรา 3 คนแค่นั้นที่จะต้องเป็นแพะรับบาปอยู่ตลอดๆ" เล่นบาคาร่า

โน่นเป็นคำกล่าวของ โรเมลู ลูกาฉัน กองหน้าชาวเบลเยียมที่บอกแบบต่อว่าตอนไปออกรายการพ็อดแคสท์รายการหนึ่ง โดยเขาให้สัมภาษณ์อย่างงี้เวลาที่ยังมีฐานะเป็นนักฟุตบอลของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อยู่ด้วย เพียงมันพึ่งจะมีการเผยแพร่เมื่อเร็วๆนี้ จนกระทั่งทำให้หลายท่านหันมาพอใจกันอย่างยิ่ง

ลูกากู ถูกตั้งความหวังเอาไว้สูงลิบตาภายหลังที่กลุ่มชำระเงินค่าจ้างในพื้นฐานไป 75 ล้านปอนด์ (ราว 2,850ล้านบาท) เพื่อดึงเขามาจาก เอฟเวอร์ตัน ทำให้เขาชอบโดนเพ่งเล็งมากมายเป็นพิเศษ และก็เพียงพอเจ้าตัวเล่นได้ห่วยแตกก็โดนดุเป็นปกติ อย่างไรก็ดี ในมุมมองของเขานั้น ลูกาฉัน ไม่คิดว่าตนเองควรโดนด่าทอมากมายขนาดนี้ปัญหาเป็นเขาควรโดนดุจริงๆหรือเป็นเพียงแค่แพะตัวหนึ่ง ?

- เป็นแพะที่น่าสงสาร

แน่นอนว่าบทบาทของ ลูกากู คือการเป็นกองหน้าตัวเป้า และตำแหน่งที่ว่าก็ต้องทำประตูเป็นหลักให้ได้ ซึ่งในฤดูกาล 2017-18 ที่เป็นซีซั่นแรกของเจ้าตัวในสีเสื้อ แมนฯ ยูไนเต็ด นั้น ผลงานของเขาก็ยังอยู่ในขั้นสอบผ่านแบบฉิวเฉียด หลังจากทำไป 27 ประตูจากการลงเล่น 51 นัดในทุกรายการ

ทั้งนี้ ในซีซั่น 2018-19 ลูกากู โดนดร็อปเป็นตัวสำรองหลายนัด จากการที่ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา เข้ามาคุมทีมแทน โชเซ่ มูรินโญ่ ในช่วงเดือนธันวาคมของปี 2018 และสไตล์ของ ลูกากู มันไม่เข้ากับแผนของ โซลชา เทาไหร่ จนทำให้สุดท้ายแล้วได้ลงเป็นตัวจริงในลีกเพียง 22 เกม แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังทำประตูในลีกได้ 12 ลูก มากกว่า มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่ลงเป็นตัวจริงในลีก 26 นัด และทำได้ 10 ประตูด้วยซ้ำ

นอกจากนี้ มันยังมีนักเตะอีกบางคนที่เล่นได้แย่กว่า ลูกากู เยอะจริงๆ ที่ชัดเจนที่สุดคงหนีไม่พ้น เจสซี่ ลินการ์ด ที่ฟอร์มย่ำแย่มากๆ แต่กลับยังได้อยู่กับทีมมาจนถึงทุกวันนี้ ถึงแม้ ลินการ์ด จะโดน "เร้ด อาร์มี่" ด่าเหมือนกัน แต่ถ้าเทียบฟอร์มการเล่นส่วนตัวกันแล้วนั้น ลูกากู ก็ไม่ควรโดนด่าหนักเท่า ลินการ์ด

- สมควรโดนด่าแล้ว

ในสายตาของแฟนบอล แมนฯ ยูไนเต็ด หลายคน เรื่องจำนวนประตูมันไม่ใช่ปัจจัยหลักที่ทำให้พวกเขาด่า ลูกากู แต่เป็นด้านอื่นๆ ต่างหาก อย่างเช่นการไม่ขยันมากเท่าที่ควรจนทำให้บางครั้งเกมรุกของทีมไปต่อไม่ได้ทั้งที่จริงๆ แล้วถ้า ลูกากู วิ่งสักหน่อยก็น่าจะช่วยทีมได้

นอกจากนี้ ลูกากู ยังทำได้แย่ในด้านการจับบอลกับการครองบอลด้วย โดยในฤดูกาล 2017-18 เขาจับบอลแย่จนทำให้บอลหลุดจากเท้าในลีก 76 ครั้ง และใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 18 ครั้ง แถมในซีซั่นนั้นเขายังโดนคู่แข่งแย่งบอลในลีกไป 48 หน กับใน แชมเปี้ยนส์ ลีก อีก 12 ครั้ง

พอถึงฤดูกาล 2018-19 ลูกากู ก็ยังจับบอลให้นิ่งไม่ได้จนทำให้บอลหลุดจากเท้าของเขาในลีกอีก 51 หน และใน แชมเปี้ยนส์ ลีก 11 ครั้ง ส่วนในด้นการครองบอลก็ยังทำได้ไม่ดีพอจนโดนคู่แข่งแย่งไปดื้อๆ ในลีก 46 หน กับใน แชมเปี้ยนส์ ลีก 11 ครั้งอีกต่างหาก

ขณะเดียวกัน ลูกากู ก็ยังถือว่าใช้โอกาสเปลืองพอตัวด้วย โดยในฤดูกาล 2017-18 เขามีจังหวะยิงในลีก 86 ครั้ง กับใน แชมเปี้ยนส์ ลีก 26 หน ก่อนที่จะทำประตูรวมใน 2 รายการนั้นได้ 21 ลูก ส่วนในฤดูกาลก่อนมีโอกาสยิงในลีก 55 ครั้ง กับใน แชมเปี้ยนส์ ลีก 10 หน แต่ดันทำประตูใน 2 รายการนั้นรวมกันได้เพียง 14 ประตูเท่านั้น

- สรุป

โดยรวมแล้ว ลูกากู ไม่ใช่คนเดียวที่ทำผลงานได้น่าผิดหวังกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ในช่วง 2 ฤดูกาลก่อนหน้านี้จริงๆ และมันก็มีคนที่สมควรโดนด่ามากกว่าเขาเหมือนที่เจ้าตัวบอก

อย่างไรก็ตาม การจะบอกว่าเขาไม่ควรโดนด่า หรือเป็น "แพะ" ตัวหนึ่งก็ถือเป็นคำพูดที่ผิดจากความจริงไปเยอะ เพราะช่วงที่ผ่านมา ลูกากู ก็ไม่ได้โชว์ฟอร์มชนิดที่จะทำให้ "เร้ด อาร์มี่" เชื่อใจได้สักเท่าไหร่นัก ผลงานต่างๆ มันถือเป็นหลักฐานที่มัดตัวเขาได้เป็นอย่างดี