Return to site

5ปัจจัยที่ทำให้แมนยูหยุดสถิติชนะรวดของลิเวอร์พูล

broken image

เปิด 5 สิ่งสำคัญที่จะทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด หยุดสถิติชนะรวดของหงส์แดงในเกมแดงเดือดครั้งแรกของฤดู 2019/20 ที่สนาม โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด วันอาทิตย์ที่ 20 เดือนตุลาคมนี้ เว็บแทงบอลออนไลน์ที่ดีที่สุด

 

ปัจจุบันนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด ของผู้จัดการทีม โอเล่ กุนนาร์ โซลชา กำลังตกอยู่ในเหตุการณ์ทรุดโทรมภายหลังพวกเขาบุกไปแพ้ นิวค้างสเซิ่ล ยูไนเต็ด 0-1 ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนนี้วันอาทิตย์ที่ 7 ต.ค.ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาทำให้ตอนนั้น "ปีศาจแดง" รั้งชั้น 12 มีคะแนนห่างโซนตกชั้นเพียงแต่ 2 แต้มเพียงแค่นั้น จนถึงทำให้ที่ปรึกษาประเทศนอร์เวย์สุ่มเสี่ยงที่จะโดนไล่ออกจากตำแหน่ง

 

เวลาเดียวกันผลงานของ "ปีศาจแดง" นั้นสวนกับ หงส์แดง อย่างสิ้นเชิงภายหลังพวกเขาออกตัวฤดูอย่างเร่าร้อนเก็บชัยมา 8 เกมรวดในลีกเก็บ 24 คะแนนเต็มรั้งผู้นำฝูงพร้อมมีแต้มทิ้งห่าง แมนฯ ซิตี้ ถึง 8 คะแนน

จนกระทั่งทำให้เกมนี้กลุ่มของ พบร์เก้น คล็อปป์ ถูกเห็นว่าเหนือกว่าทุกกระบวนท่า แล้วก็จะเดินหน้าทำสถิติเก็บชัย 9 นัดหมายรวด แต่มีหลายต้นเหตุที่จะทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด มีสิทธิ์หยุดสถิติชนะรวดของ หงส์แดง ลงได้จากเหตุผลดังนี้

 

5.เหตุในโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด

 

ย้อนไปก่อนหน้าที่ผ่านมา หงส์แดง มีสถิติที่ไม่ค่อยสู้ดีนักสำหรับเพื่อการมาเยี่ยมโรงแสดงละครที่ความฝัน ภายหลังจากพวกเขาเก็บชัยได้เพียงแค่ครั้งเดียวในตอนทศวรรษนี้ เป็นเกมที่ "ลิเวอร์พูล" บุกมาเอาชนะ 3-0 ในสมัยของผู้จัดการทีมฟุตบอล เดวิด มอยส์ ปี 2014 ต่อไปในสมัยของผู้จัดการทีมฟุตบอล หฝ่าส์ ฟาน กัล, โชเซ่ มูรินโญ่ รวมทั้ง โอเล่ กุนท้องนาร์ โซลชา ก็ไม่อาจจะบุกมาเก็บชัยตรงนี้ได้เลยจากผลงานแพ้ 3 เสมอ 3 รวมทุกรายการ

บรรยากาศในโรงแสดงละครที่ความฝันสาวก "เร้ด เดวิลส์" จะสามารถสร้างแรงกดดันที่จะทำให้สมาชิกของคล็อปป์เจองานที่ยากขึ้นอีก รวมทั้งอาจจะมีการเกิดเหตุการณ์กลับตาลปัตรในเกมนี้ก็เป็นไปได้

 

4.โมฮาเหม็ด ซาลาห์

 

ปีกชาวอียิปต์จะต้องลุ้นอีกทีว่าจะฟิตทันกลับมาลงเล่นในเกมแดงเดือดทันหรือเปล่า ภายหลังจากเจ้าตัวมีลักษณะอาการเจ็บมาจากเกมที่สังกัดเดิมเอาชนะ เลสเตอร์ สิตี้ 2-1 ที่ถูก ฮัมซ่า เชาด์ปรี่ มิดฟิลด์ดาวรุ่ง "หมาจิ้งจอกสีน้ำเงิน" เข้าทิ่มจากข้างหลังตอนนาทีที่ 89 ซึ่งเป็นเหตุทำให้ สตาร์วัย 27 ปี เล่นต่อไม่ไหว จนกระทั่งจำเป็นต้องถูกสลับตัวออก

อย่างไรก็แล้วแต่ถ้าหาก ซาลาห์ กลับมาลงเล่นได้ทันในเกมนี้ก็บางทีอาจอยู่ในตอนที่เขาจะอยู่ในภาวะที่ไม่สมบูรณ์ร้อยเปอร์เซ็นต์ ซึ่งบางทีอาจมีผลต่อฟอร์มการเล่น เวลาเดียวกันเจ้าตัวก็ยังไม่เคยทำแต้มใส่ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้เลยจากการลงเล่น 4 นัดหมายในเกมแดงเดือด

 

3.เกมคุ้มครองป้องกันที่แน่นแฟ้น

 

แมนฯ ยูไเนต็ด เป็นอีกหนึ่งกลุ่มที่มีเกมรับเหมาะสมที่สุดในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ การได้อีกทั้ง แฮร์รี่ แม็กไกวร์ และก็ อาร์รอน วาน บิสซาก้า ช่วยมาทำให้แนวรับของพวกเขากล้าแกร่งขึ้นอย่างชัดเจน

เกมนี้พวกเขาจะได้บรรดากองหลังตัวหลักคืนสนามพร้อมทั้งยัง อาร์รอน วาน บิสซาก้า, วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ รวมทั้ง ลุค ชอว์ ที่กลับมาจากการบาดเจ็บทั้งผอง ซึ่งจะเป็นงานหนักที่ หงส์แดง บางทีอาจจำต้องเหน็ดเหนื่อยดังเช่นเดียวในเกมกับ นาโปลี, เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด หรือ เลสเตอร์ สิตี้

 

 

2.สถิติแดงเดือดของคล็อปป์

 

ฤดูที่แล้วความมีชัย 3-1 ที่แอนฟิลด์เป็นเพียงแค่ความมีชัยครั้งลำดับที่สองของ คล็อปป์ ต่อ แมนฯ ยูไนเต็ด จากเก้าครั้งที่เจอะกัน และก็นับว่าเป็นทีแรกในพรีเมียร์ลีก จากสถิติดังที่ได้กล่าวมาแล้วทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด มิได้หวาดกลัวต่อการมาเยี่ยมของยอดกลุ่มที่เมอร์ซีย์ไซด์เท่าไรนัก

 

1.อลีสซง เบ็คเกอร์

 

การกลับมาของ อลีสซง ดูเหมือนจะเป็นการเพิ่มความสามารถในเกมคุ้มครองให้กับ "ลิเวอร์พูล" ด้วยความเป็นผู้เฝ้าประตูระดับท็อปของโลกอาจจะก่อให้ คล็อปป์ ตกลงใจส่งเจ้าตัวกลับมายึดตัวจริงในเกมนี้ข้างหลังสลัดการบาดเจ็บกลับมาได้ทัน

แต่ว่าแม้มองดูในความคิดเห็นกันนายทวารชาวบราซิลจำเป็นต้องร้างสนามไปถึงยาวนานหลายสัปดาห์ซึ่งอาจส่งผลให้ฟอร์มของเขายังไม่เข้าที่เข้าทางแล้วก็บางทีก็อาจจะได้ผลเสียต่อกลุ่มมากยิ่งกว่าผลในด้านที่ดี เพราะ อาเดรียน ผู้เฝ้าประตูมือสองก็กำลังอยู่ในตอนฟอร์มที่สุดยอด